บ้านร้อนอบอ้าว แก้ไขได้ด้วยการติดฟิล์มกระจกบ้าน
วันหยุดทั้งที หลายคนคงอยากจะนอนเล่นอยู่บ้านสบาย ๆ แต่อากาศภายในบ้านร้อนอยู่ไม่ไหว ต้องเปิดแอร์ทั้งวัน ค่าไฟฟ้าก็พุ่งสูงปรี๊ด พอเห็นบิลค่าไฟฟ้ามาก็แทบจะลมจับเลยทีเดียว แล้วเราจะมีวิธีแก้บ้านร้อนอย่างไรให้ยั่งยืน หรือสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้บ้านของคุณร้อนอบอ้าวจนอยู่ไม่ได้ ลองมาหาสาเหตุและวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกัน
ปัญหาบ้านร้อนอบอ้าวเกิดจากสาเหตุอะไร
1.ตำแหน่งบ้านอยู่ไม่ถูกทิศทาง
บ้านร้อนอาจเนื่องมาจากที่ตั้งอยู่ผิดตำแหน่ง ทิศทางของบ้านมีผลต่อระยะเวลาการรับแสงอาทิตย์ในช่วงวัน และหากบ้านของคุณไม่ได้เปิดหน้าต่างในทางทิศเหนือและทิศใต้ อาจยิ่งทำให้บ้านร้อนอึดอัดยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่มีอากาศถ่ายเทเข้ามานั่นเอง
2.ต่อเติมบ้านผิดมาตรฐาน
เชื่อว่าหลายคนพอสร้างบ้านเสร็จอาจจะอยากต่อเติมในภายหลัง ซึ่งการปรับปรุง หรือต่อเติมบ้านโดยไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากช่างผู้เชี่ยวชาญ อาจส่งผลต่อโครงสร้างของบ้านได้ และยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้บ้านร้อนอบอ้าวมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณสร้างรั้วบ้านสูงและทึบ จะทำให้ลมไม่สามารถพัดผ่านเข้าภายในบ้าน
3.ปริมาณกระจกรอบบ้านเยอะ
การตกแต่งบ้านด้วยกระจกนั้นเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน เนื่องจากสามารถทำให้บ้านแลดูทันสมัย มินิมอล โดยข้อดีของการตกแต่งด้วยกระจกคือ แสงสว่างส่องผ่านเข้ามาได้มาก แต่บ้านก็จะร้อนมากขึ้นด้วยเช่นกัน
4.จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้าก็นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้บ้านร้อนอบอ้าวมากขึ้นได้ เช่น การใช้หลอดไส้โคมดาวน์ไลท์ ซึ่งมีความร้อนมากกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือหากห้องครัวของคุณไม่ได้ติดตั้งเครื่องดูดควัน และพัดลมดูดอากาศ อาจทำให้มีทั้งกลิ่น ควัน และความร้อนจากเตาแก๊สสะสมอยู่ในตัวบ้าน
5.บ้านขาดพื้นที่สีเขียว
การปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงาจะช่วยทำให้บ้านร้อนน้อยลงได้ หากในห้องของคุณมีพื้นที่ว่าง ก็มีทางเลือกเป็นการ
ปลูกต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศไว้ในห้องได้ เพราะจะช่วยเพิ่มความเย็นภายในห้องอีกด้วย
6.ทาสีบ้านโทนเข้ม
ถึงแม้ว่าการเลือกสีทาบ้านจะขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน แต่การเลือกสีโทนอ่อนจะทำให้บ้านสะสมความร้อนได้น้อยกว่าสีโทนเข้ม หากต้องการให้บ้านร้อนน้อยลง คุณควรเลือกทาสีโทนอ่อนมากกว่าจะเป็นโทนเข้ม ทั้งภายนอกและภายในบ้าน
7.เลือกใช้วัสดุที่ดูดความร้อน
หากไม่อยากให้บ้านร้อนอบอ้าว คุณควรปูฉนวนกันความร้อนตั้งแต่ขั้นตอนก่อสร้าง เนื่องจากตัวฉนวนสามารถสะท้อนความร้อนออกได้มากถึง 70% เมื่อติดตั้งสามารถลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ ส่งผลให้การเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าน้อยลง ดังนั้นการติดตั้งฉนวนกันความร้อนนอกจากจะช่วยให้บ้านร้อนน้อยลงแล้วยังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดค่าไฟฟ้าด้วย
7 วิธีแก้ปัญหาบ้านร้อน ระบายความร้อนในบ้านได้อย่างไร
1.ติดฟิล์มกระจกบ้าน
สำหรับบ้านใครที่ตกแต่งบ้านด้วยกระจก ขอแนะนำวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนด้วยการติดฟิล์มกระจกบ้านที่มีคุณภาพ โดยฟิล์มกรองแสงที่นิยมใช้กัน ได้แก่ ฟิล์มกรองแสง Lamina , ฟิล์มกรองแสง XTRA-COLE และฟิล์มกรองแสงแบรนด์ Hi-Kool เป็นต้น ซึ่งการติดฟิล์มกระจกบ้านนั้น นอกจากจะช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ได้ดีแล้ว ยังช่วยป้องกันรังสี UV และยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
2.ติดฉนวนกันความร้อน
ติดฉนวนกันความร้อนถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะติดตั้งครั้งเดียวก็อยู่ได้ยาวนาน ใช้งานได้ผลจริง โดยตัวฉนวนกันความร้อนนั้น จะทำหน้าที่สะท้อนความร้อนที่เข้ามาสู่ตัวบ้านโดยตรง ขอแนะนำให้ติดตั้งฉนวนกันความร้อนเข้ากับหลังคาบ้าน, เพดาน และผนังบ้าน เนื่องจากวิธีนี้จะช่วยให้บ้านเย็น และระบายความร้อนได้เร็วยิ่งขึ้น
3.ทาสีบ้านใหม่เป็นสีอ่อน
การเลือกใช้สีทาบ้านโทนสว่างนั้น จะสามารถช่วยให้บ้านดูดกลืนแสงแดดน้อยลงได้ และยังสะท้อนรังสีความร้อนได้ดีกว่าสีโทนเข้ม โดยสีโทนสว่างที่คุณควรเลือกใช้ เพื่อให้บ้านร้อนอบอ้าวน้อยลง ได้แก่ สีขาว, สีชมพูอ่อน, สีครีม และสีโทนพาสเทล เป็นต้น นอกจากนี้ คุณควรเลือกใช้สีทาบ้านที่มีการผสมผสานเทคโนโลยีกันความร้อน บ้านจึงจะร้อนน้อยลง
4.เปลี่ยนฝ้าเพดานแบบสะท้อนความร้อน
วิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนที่ดีมีประสิทธิภาพคือ การเปลี่ยนฝ้าเพดานแบบสะท้อนความร้อน ซึ่งสามารถสะท้อนความร้อนออกจากตัวบ้านได้มากถึง 70% โดยฝ้าเพดานที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ได้แก่ อะลูมิเนียมฟอยล์, แอร์บับเบิ้ล, โพลีเอธิลีนโฟม และใยแก้ว โดยวัสดุแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติ, ค่ากันร้อน และวิธีการติดตั้งที่แตกต่างกันไป คุณควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกติดตั้ง
5. เปลี่ยนวัสดุปูพื้นที่บ้านแบบเก็บความเย็น
สำหรับบ้านใครที่ร้อนอบอ้าว แต่มีพื้นที่ค่อนข้างน้อย คุณสามารถเปลี่ยนวัสดุปูพื้นที่บ้าน ให้เป็นแบบเก็บความเย็น เช่น กระเบื้องแกรนิตโต้, กระเบื้องเซรามิก, กระเบื้องดินเผา, กระเบื้องพอร์ซเลน, กระเบื้องหินอ่อน หรือการลงบล็อกปลูกหญ้า และหญ้าเทียม เป็นต้น เพราะวัสดุเหล่านี้จะกักเก็บความร้อนได้น้อยกว่าพื้นปูนซีเมนต์
6.ติดตั้งกันสาดหรือผ้าใบบังแดด
หากบ้านของคุณมีพื้นที่เหลือน้อย อาจใช้วิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนด้วยการ ติดตั้งกันสาด หรือผ้าใบบังแดดตรงบริเวณที่มีแสงแดดส่องเข้ามา แต่หากไม่สะดวกในการติดตั้งกันสาด หรือผ้าใบบังแดด ก็สามารถใช้ผ้าม่านแทนได้
7.ติดตั้งพัดลมเพดาน
หากบ้านร้อนอบอ้าว เนื่องจากไม่มีอากาศถ่ายเทเข้ามาในบ้าน วิธีแก้ไขอาจเป็นการติดตั้งพัดลมเพดาน เพราะสามารถทำให้อากาศหมุนเวียนได้มากขึ้น ขอแนะนำให้ติดตั้งพัดลมเพดานหันไปในทิศหน้าต่าง เพื่อไล่ความร้อนออกจากตัวบ้านได้รวดเร็วมากขึ้น
ติดฟิล์มกรองแสง ช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อนได้เป็นอย่างดี
ติดฟิล์มกรองแสงทั้งที คุณควรเลือกให้ตรงกับการใช้งาน, เลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และยี่ห้อมีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือ เพื่อที่ติดแล้วจะได้อยู่ได้นาน เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันมีฟิล์มกรองแสงให้คุณเลือกหลากหลายประเภท ได้แก่
- ฟิล์มกรองแสงใส สามารถกันความร้อนจากรังสี UV 99%, รังสีอินฟราเรด 90% และกันแสงที่ส่องเข้ามาในตัวบ้านได้มากถึง 70% โดยฟิล์มชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมองดูวิวทิวทัศน์ด้านนอกด้วย
- ฟิล์มกรองแสงปรอท สามารถสะท้อนแสงได้ดี มากกว่าฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ ซึ่งสามารถกันรังสีUV ได้มากกว่า 99% เนื่องจากมีสารโลหะอยู่ในเนื้อฟิล์ม นอกจากนี้ยังมีสีสันสวยงาม และยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านของคุณ จึงได้รับความนิยมอย่างมาก
- ฟิล์มกรองแสงดำ ช่วยลดแสงจ้า และลดอาการแสบตา ตาพร่าจากการได้รับแสงจ้านาน ๆ ได้ดี อีกทั้งยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้าน แต่จะสามารถกรองแสงได้ต่อเมื่อมีการเคลือบสารกันรังสีเพิ่มเติมเท่านั้น
- ฟิล์มกรองแสงเซรามิก มีความแข็งแรงทนทาน สามารถป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี หากติดตั้งฟิล์มชนิดนี้ จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่มองเห็นภายนอกได้พร้อมกัน
แนะนำบริการติดฟิล์มกรองแสง “Q-CHANG” ลดบ้านร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟิล์มกรองแสงสามารถกันความร้อนจากแสงแดดได้สูงถึง 80% และ กันรังสี UV ได้สูงสุด 99% ซึ่งการติดฟิล์มกรองแสงนั้น เป็นวิธีแก้บ้านร้อนที่ตรงจุด ลงทุนติดครั้งเดียวแต่อยู่ได้นานหลายปี ทั้งนี้ คุณควรเลือกติดฟิล์มกรองแสงจากวัสดุของฟิล์มที่มีคุณภาพ และยี่ห้อมีความน่าเชื่อถือ ถึงจะสามารถลดช่วยลดความร้อนจากแสงที่ส่องได้จริง
สำหรับใครที่มองหาช่างติดฟิล์มกรองแสงที่ได้มาตรฐาน มีความเชี่ยวชาญ สามารถติดฟิล์มกรองแสงได้เรียบเนียนสนิทสวยงาม Q-CHANG พร้อมให้บริการรับติดฟิล์มกระจกบ้าน ช่างของเรามีความชำนาญเป็นอย่างดี มั่นใจได้ว่า หลังติดตั้งฟิล์มกรองแสงแล้วจะไม่พอง, ลอก, เปลี่ยนสี หรือหลุดล่อนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้เรายังมีการรับประกันการติดตั้งยาวนาน 5-7 ปี (ขึ้นอยู่กับชนิดฟิล์มกรองแสงที่คุณเลือกใช้) สำหรับท่านใดที่สนใจบริการติดฟิล์มกระจกบ้านของเรา สามารถติดต่อได้ที่
- เว็บไซต์ : www.q-chang.com
- LINE Official : @q-chang
- Facebook : Q-CHANG คิวช่าง