แบบรางน้ำฝน

เลือกแบบรางน้ำฝนอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวบ้าน ติดตั้งง่าย ใช้ได้นาน ไม่รั่วซึม

“คราบดำ และเชื้อราจากปัญหาน้ำฝนไหลลงกำแพงบ้าน” สร้างความไม่สบายใจให้กับใครหลาย ๆ คน เพราะฉะนั้นการเลือกแบบรางน้ำฝนที่เหมาะสม คือทางออกที่ดีที่สุดของคนรักบ้าน

บทความนี้ Q CHANG จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแบบรางน้ำฝนที่เหมาะกับตัวบ้าน พร้อมแนะนำรายละเอียดสำคัญทั้งความรู้ด้านประโยชน์ รูปแบบการใช้งาน และการใช้งานรางน้ำฝนแต่ละประเภท เลือกรางน้ำฝนให้ดี จ้างช่างรับติดตั้งรางน้ำฝนที่ชำนาญ จบปัญหาน้ำฝนไหลลงตัวบ้านได้แน่นอน


ประโยชน์ในการติดตั้งรางน้ำฝน

ประโยชน์ของรางน้ำฝน

ประโยชน์สำคัญที่ทำให้ทุกบ้านจำเป็นต้องติดตั้งรางน้ำฝนนั้น มีดังนี้ 

  • รางน้ำฝน ช่วยควบคุมทิศทางการไหลของน้ำฝนให้ลงในจุดที่เหมาะสม
  • ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวบ้านเลอะคราบสกปรกจากฝุ่น เศษใบไม้ ใบหญ้าบนหลังคาที่ถูกน้ำฝนพัดลงมา
  • ลดโอกาสการเกิดเชื้อราจากการที่น้ำฝนไหลลงบนกำแพงบ้าน
  • ป้องกันเชื้อรา และปัญหาบ้านชื้นจากกการที่น้ำฝนไหลลงกำแพงบ้าน 
  • ป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้ามายังในบ้าน
  • ป้องกันไม่ให้น้ำฝนจากไหลจากหลังคาบ้านเรา และไปตกกระทบยังบ้านข้างเคียง
  • ลดการเกิดปัญหาน้ำขังรอบตัวบ้าน ที่อาจทำให้เกิดดินทรุดได้
  • ช่วยป้องกันสีบ้านหมองไว

จากประโยชน์ข้างต้นจะเห็นได้ทันทีเลยว่ารางน้ำฝนนั้น สร้างประโยชน์ให้กับตัวบ้านได้ในหลากหลายมิติ แต่การจะใช้ประโยชน์จากรางน้ำฝนได้เต็มประสิทธิภาพนั้น แบบรางน้ำฝนที่เลือกติดตั้งต้องได้คุณภาพ และเหมาะกับตัวบ้านด้วยเช่นกัน 


การเลือกแบบรางน้ำฝน ควรตรวจสอบอะไรก่อนบ้าง

การติดตั้งรางน้ำฝน

เพื่อให้ได้มาซึ่งรางน้ำฝนที่เหมาะกับตัวบ้าน ใช้ได้นาน และมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีที่สุด Q-CHANG ขอแนะนำให้คุณตรวจสอบรายละเอียดของรูปแบบรางน้ำฝนให้ดีก่อนตัดสินใจติดตั้ง ตามหัวข้อต่อไปนี้

1. อายุการใช้งาน

ควรเลือกรางน้ำฝนที่มีอายุการใช้งานยาวนาน 10-15 ปี เพราะรางน้ำฝนคือส่วนสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวบ้านได้ 

2. วัสดุแข็งแรงทนทาน

แนะนำให้เลือกแบบรางน้ำฝนที่มีวัสดุแข็งแรงทนทาน เพราะจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของรางน้ำฝน ยิ่

งวัสดุดียิ่งดูแลรักษาง่าย ลดโอกาสในการเกิดความเสียหาย ป้องกันน้ำรั่วซึม และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหากเกิดปัญหา

3. รูปร่างรางน้ำฝนแบบด้านหลังสั้น

โดยทั่วไปแล้ว รางน้ำฝนด้านหลังต้องสั่นกว่าด้านหน้า เพราะแบบรางน้ำฝนดังกล่าวจะช่วยป้องกันปัญหาน้ำไหลย้อนเข้าฝ้าเพดาน ที่จะทำให้เกิดปัญหาฝ้าน้ำรั่ว หรือฝ้าขึ้นราได้ในอนาคต

4. ขนาดของรางน้ำฝนที่พอดีกับหลังคา

ขนาดของรางน้ำฝนควรมีความพอดีกับขนาดของหลังคา เพื่อให้น้ำไหลไปลงในจุดที่เหมาะสมได้อย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงหากหลังคามีความใหญ่ และยาวมาก ควรเลือกแบบรางฝนที่มีรูระบายน้ำหลายจุด เพื่อให้น้ำฝนระบายได้ทัน ไม่เกิดการไหลย้อนกลับ

5. ราคาสมเหตุสมผล

ควรเลือกแบบรางน้ำฝนที่มีราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป แม้จะมีแบบรางน้ำฝนให้เลือกใช้งานกันได้อย่างหลากหลาย แต่การลงทุนใช้รางน้ำฝนที่วัสดุดีขึ้นมาหน่อย แม้จะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายบ้างเล็กน้อย แต่ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวอย่างแน่นอน

6. เลือกใช้วิธีการติดตั้งที่ถูกต้อง

การติดตั้งรางน้ำฝนนั้น ส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพการใช้งาน ควรติดตั้งรางน้ำฝนอย่างถูกต้องผ่านการเลือกจ้างช่างที่ชำนาญ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหารางน้ำฝนรั่วซึม หรือไม่แข็งแรง 


วัสดุในการทำรางน้ำฝน มีแบบไหนบ้าง

รางน้ำฝน

1. ไวนิล

รางน้ำฝนไวนิล หนึ่งในแบบรางน้ำฝนยอดนิยม ไม่เป็นสนิมง่าย ทนต่อสภาพแวดล้อมทั้งแดด และฝนได้ดี ที่สำคัญรางน้ำไวนิลราคาดี ติดตั้งง่าย ใช้ได้กับบ้านทุกสไตล์ มีความแข็งแรงทนทานใช้ได้นานมากกว่า 10 ปีเลยทีเดียว

2. อลูมิเนียม

รางน้ำฝนแบบอลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับใช้ทำรางน้ำฝนเป็นอย่างมาก ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเป็นสนิมยาก วัสดุผิวแวววาวสวยงาม และไม่ค่อยพบปัญหารั่วซึมระหว่างการใช้งาน

3. สแตนเลส

รางน้ำฝนแบบสแตนเลส วัสดุราคาสูงที่มีคุณภาพสูงตามราคา มีความทนทานในการใช้งาน ไม่เกิดสนิม ค่อนข้างเป็นที่นิยมในการใช้ทำรางน้ำฝนเพราะวัสดุได้มาตรฐาน เสียหายยาก ใช้งานได้นาน

4. สังกะสี

รางน้ำฝนสังกะสี แบบรางน้ำฝนสุดคลาสสิกที่มีราคาถูกที่สุด น้ำเบา ความทนทานต่ำหากเทียบกับรางน้ำฝนรูปแบบอื่น ๆ เกิดสนิมง่าย ผุพังไว และเกิดเสียงดังรบกวนเมื่อฝนตกกระทบ

5. ไฟเบอร์กลาส

รางน้ำฝนแบบไฟเบอร์กลาส เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่นิยมใช้สำหรับทำรางน้ำฝนเช่นเดียวกัน เพราะมีความทนทานสูง ไม่เป็นสนิม ไม่มีรอยต่อทำให้น้ำไม่รั่วซึม ที่สำคัญสามารถสั่งผลิตได้หลายสี ง่ายต่อการออกแบบให้เข้ากับตัวบ้าน

6. เมทัลชีท

รางน้ำฝนแบบเมทัลชีท วัสดุเป็นส่วนผสมจากอลูมิเนียมและสังกะสี ป้องกันการกัดกร่อนได้สูง เกิดสนิมยาก ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี พื้นผิวสวยช่วยสร้างสเน่ห์ให้กับตัวบ้าน 


แบบรางน้ำฝน ควรเลือกแบบไหนดี 

รางน้ำฝนแบบไหนดี

1. รางน้ำฝนแบบทั่วไป

รางน้ำฝนแบบทั่วไป คือแบบรางน้ำฝนที่พบเห็นได้มากที่สุดในบ้านทุกประเภท ลักษณะการติดตั้งจะติดรอบชายขอบหลังคา เป็นรางยาวเพื่อสร้างทางเดินให้กับน้ำไปลงในจุดที่ต้องการ ติดตั้งง่าย และราคาค่อนข้างถูก

2. รางน้ำฝนแบบโซ่

รางน้ำฝนแบบโซ่ รูปแบบรางน้ำฝนที่เริ่มนิยมกันมากขึ้นในปัจจุบัน เน้นความสวยงาม พร้อมสร้างทางน้ำไหลไปกับสายโซ่ ลดการเกิดเสียง แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ประโยชน์

3. รางน้ำฝนแบบสั่งทำพิเศษ

รางน้ำฝนแบบสั่งทำพิเศษ เหมาะสำหรับบ้านที่มีการออกแบบหลังคาแตกต่างจากบ้านทั่วไป หรือบ้านที่ต้องการใช้รางน้ำฝนเพื่อรองรับหลังคา 2 ฝั่ง นอกจากนี้บ้านที่มีขนาดหลังคาใหญ่มากเป็นพิเศษ การสั่งทำรางน้ำฝนแบบพิเศษจะเหมาะสมมากกว่าอีกด้วย

4. รางน้ำฝนแบบซ่อนในหลังคา

สำหรับบ้านที่มีหลังคาขนาดใหญ่ รางน้ำฝนแบบซ่อนคืออีกหนึ่งทางเลือกที่ค่อนข้างนิยมเช่นเดียวกัน เนื่องจากช่วยให้รู้สึกสบายตา ไม่รู้สึกว่ามีอะไรยื่นออกมาจากตัวบ้าน ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องทำหลังคาให้ลาดชันมากอีกด้วยหากเลือกใช้รางน้ำฝนแบบซ่อนในหลังคา

5. รางน้ำฝนแบบสำเร็จรูป

รางน้ำฝนสำเร็จรูป มักจะมาในรูปแบบของวัสดุประเภทไวนิล ง่ายต่อการติดตั้ง ใช้งานได้ทันทีกับบ้านทุกประเภท เป็นหนึ่งในรูปแบบรางน้ำฝนที่ได้รับความนิยมใช้ติดตั้งกันตามบ้านทั่วไปในปัจจุบันเช่นกัน


ก่อนติดตั้งรางน้ำฝน ควรระวังอะไรบ้าง

ข้อควรระวังก่อนติดตั้งรางน้ำฝน

แม้จะเลือกแบบรางน้ำฝนได้เหมาะสมกับตัวบ้านและการใช้งานแล้ว แต่การสำรวจข้อควรระวังก่อนติดตั้งรางน้ำฝนลดโอกาสในการเกิดปัญหาก็สำคัญเช่นเดียวกัน 

  • การติดตั้งรางน้ำฝนที่มีขนาดไม่พอดีกับปริมาณน้ำฝน อาจทำให้เกิดปัญหาน้ำไหลย้อนเข้าฝ้า หรือน้ำรั่ว ล้นออกมาจากรางจนเข้าไปในตัวบ้าน หรือไหลลงผนัง ทำให้เกิดคราบน้ำ ความอับชื้น และปัญหาเชื้อราตามมาได้
  • การติดตั้งรางน้ำฝนยื่นเข้าบ้านใกล้เคียง อาจทำให้เกิดปัญหากับความสัมพันธ์ระหว่างบ้านใกล้เรือนเคียงได้ เพราะหากรางน้ำฝนยื่นเข้าบ้านข้างเคียง อาจทำให้น้ำฝนกระเด็น หรือท่วมเข้าข้างบ้านได้ ที่สำคัญยังผิดกฎหมายอีกด้วย 

จะเห็นได้ชัดว่าข้อควรระวังทั้ง 2 ข้อข้างต้นนั้น เป็นสิ่งที่ละเลยไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้ นอกจากจะผิดใจกับเพื่อนบ้านแล้ว และผิดกฎหมายอีกด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกช่างติดตั้งรางน้ำฝนที่เชี่ยวชาญ และมีความรู้จึงสำคัญไม่แพ้แบบการเลือกแบบรางน้ำฝนเช่นเดียวกัน


“Q-CHANG” รับติดตั้งรางน้ำฝนโดยช่างมืออาชีพ ดูแลครบวงจร

ติดตั้งรางน้ำฝน

เลือกแบบรางน้ำฝนที่ชอบ และช่างติดตั้งรางน้ำฝนที่ใช่กับ Q-CHANG เพราะเราคือผู้ให้บริการติดตั้งรางน้ำฝนแบบครบวงจร เริ่มต้นดูแลตั้งแต่การทำความสะอาดหลังคา ให้คำปรึกษาในการเลือกแบบรางน้ำฝนที่เหมาะสมกับงบ และตัวบ้านของคุณ ติดตั้งรางน้ำฝนโดยช่างมืออาชีพ รับประกันหลังติดตั้งนาน 1 ปี มั่นใจได้น้ำไม่รั่วซึม รางไม่เสียหาย หรือชำรุดได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน

สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดการติดตั้งรางน้ำฝนกับทาง Q-CHANG ติดต่อเราได้ตามช่องทางนี้